1. ส่วนประกอบของโปรแกรม MATLAB


ในหัวข้อนี้เราจะมาดูว่าส่วนต่างๆ ของโปรแกรม MATLAB มีชื่อเรียกว่าอะไรบ้าง ซึ่งหลายๆ คนอาจคิดว่าไม่สำคัญ แต่จริงๆ แล้วสำคัญมากนะครับ และขอให้จำชื่อของแต่ละส่วนเอาไว้ให้ดี เวลาที่ผมบอกว่า “พิมพ์คำสั่งนี้ใน command window” หรือ “ดูค่าตัวแปรนี้ใน workspace” จะได้รู้ว่าต้องดูตรงไหน


ก่อนอื่นเรามาดูหน้าตาโปรแกรมแบบมาตรฐานของ MATLAB กันเลยครับ หน้าตาก็จะเป็นดังรูปด้านล่าง ถ้าหากใครไม่เป็นตามรูปด้านล่าง ให้คลิกที่ Layout นะครับ อยู่ข้างๆ ปุ่ม Simulink

รูปที่ 1 ส่วนประกอบของโปรแกรม MATLAB

ส่วนที่ 1 Current folder

ส่วนนี้บ่งบอกถึงโฟลเดอร์ปัจจุบันที่โปรแกรมทำงานอยู่ ซึ่งมีความสำคัญมากเวลาที่เราต้องการอ่านไฟล์ ตัวอย่างเช่น ถ้าใน current folder มีรูปภาพที่ชื่อว่า test01.jpg เราสามารถใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่ออ่านภาพได้เลย

>> Pic = imread(‘test01.jpg’);

แต่ถ้าไฟล์ test01.jpg ไม่ได้อยู่ใน current folder แต่อยู่ที่ C:\test01.jpg ถ้าหากเราพิมพ์คำสั่งข้างต้น เราจะเห็นโปรแกรมแจ้งเตือน error ทันทีเพราะว่ามันไม่พบไฟล์ test01.jpg อยู่ใน current folder ถ้าไฟล์นั้นอยู่นอก current folder เราต้องระบุตำแหน่งของไฟล์ในรูปแบบเต็ม จึงจะสามารถอ่านไฟล์นั้นได้ เช่น

>> Pic = imread(‘C:\test01.jpg’);

การเปลี่ยนตำแหน่งของ current folder นั้นทำได้ 3 วิธีดังนี้

1. คลิกเปลี่ยนตำแหน่งไดร์ฟ ดังรูป และเลือกโฟลเดอร์ที่เราต้องการ


2. พิมพ์คำสั่งใน command window (ส่วนที่เป็นหมายเลข 2 ในรูปที่ 1) เช่น ถ้าเราอยากเปลี่ยน current folder ไปที่ drive D ก็ให้พิมพ์คำสั่งดังนี้

>> cd D:

3. สร้าง m-file แล้วบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่เราต้องการ เมื่อเรากดรัน m-file โปรแกรมจะถามเราเองว่าต้องการเปลี่ยน current folder ไปที่โฟลเดอร์ของโปรแกรมนั้นรึเปล่า

ส่วนที่ 2 Command window

Command window คือ หมายเลข 2 ในรูปที่ 1 ส่วนนี้จะเอาไว้ให้เราทดสอบโค้ดโปรแกรมเป็นหลัก โดยเราสามารถพิมพ์คำสั่งต่างๆ เข้าไปได้ และเมื่อเรากดปุ่ม Enter โค้ดโปรแกรมชุดนั้นก็จะประมวลผลทันที ซึ่งการเขียนโค้ดใน command window มีสิ่งสำคัญที่เราต้องจำให้ได้ดังนี้

1. เมื่อกด Enter ไปแล้ว เราจะไม่สามารถกลับไปแก้ไขโค้ดนั้นได้อีก (ต้องพิมพ์ใหม่เท่านั้น)

2. ถ้าหากเราไม่ใส่ semi-colon (;) ปิดท้ายบรรทัด หลังจากกด Enter แล้ว ผลลัพธ์ของโค้ดชุดนั้นจะถูกแสดงผลทันที แต่ถ้าใส่ semi-colon ก็จะไม่มีการแสดงผล

3. หากเราไม่ต้องการพิมพ์โค้ดใหม่ เราสามารถเรียกใช้ history ได้โดยการกดปุ่มลูกศร ขึ้น/ลง ที่อยู่บนแป้นพิมพ์

4. ถ้าหากเราต้องการขึ้นต้นบรรทัดใหม่ แต่ยังไม่อยากให้โค้ดโปรแกรมถูกประมวลผล ให้กด Shift + Enter เมื่อพิมพ์โค้ดเสร็จทุกบรรทัดแล้วค่อยกด Enter อีกที

5. เราสามารถเคลียร์ command window ได้โดยใช้คำสั่ง

>> clc

6. ตัวแปรทุกตัวที่ถูกเขียนใน command window จะถูกเก็บไว้ใน workspace ดังนั้นเราจึงสามารถเรียกใช้ตัวแปรนั้นได้ทันที โดยไม่ต้องเขียนใหม่

ส่วนที่ 3 workspace

ส่วนนี้คือหมายเลข 3 ในรูปที่ 1 ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของตัวแปรต่างๆ ที่เราเขียนใน command window หรือเขียนใน m-file ซึ่งแตกต่างจากโปรแกรมทั่วไป เพราะโปรแกรมทั่วไป เมื่อรันโปรแกรมเสร็จแล้ว ตัวแปรทุกตัวในโปรแกรมนั้นจะถูกลบทิ้งทันที ทำให้เราไม่สามารถดูค่าของตัวแปรแต่ละตัวได้

ส่วนนี้มีประโยชน์มากในการแก้ไขโปรแกรม เพราะเรามักจะเจอปัญหาเกี่ยวกับตัวแปรบ่อยๆ เช่น

>> index exceed matrix dimension

ถ้าเราเจอข้อความแจ้งเตือน error แบบนี้แสดงว่าเราวนลูปเกินขนาดของตัวแปร เช่น เรามีอาเรย์ 1 มิติที่ยาวเพียงแค่ 10 หน่วย แต่เราวนลูปไป 11 ครั้ง โปรแกรมก็จะฟ้อง error ดังนั้นเวลาเจอ error แบบนี้เราก็จะมาเช็คตัวแปรที่อยู่ใน workspace ว่ามีขนาดเท่าไร โดยพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้ใน command window

>> whos a

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นดังนี้


เราก็จะรู้ว่าตัวแปร a มีขนาด 3 แถว 4 คอลัมภ์ และเป็นข้อมูลประเภท double

*หมายเหตุ a ใช้แทนชื่อตัวแปรที่เราต้องการดูข้อมูล ซึ่งหากใครไม่มีตัวแปร a ใน workspace เมื่อพิมพ์คำสั่งข้างต้น ก็จะไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ออกมา

หากเราพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้ จะเป็นการลบข้อมูลตัวแปรทั้งหมดที่อยู่ใน workspace

>> clear



จบหัวข้อที่ 1

ความเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การแก้สมการ Differential ด้วย MATLAB

การหาค่าเฉลี่ยโดยไม่ต้องเก็บค่า

ว่าด้วยเรื่องของ ERROR