บทความ

ส่งเมลล์ด้วย PHP

รูปภาพ
PHP เป็นอีกภาษาหนึ่งที่ผมชอบเอามาเชื่อมต่อกับ MATLAB โดยเฉพาะเมื่อผมต้องเอา MATLAB ไปประมวลผลบน server หลังจากนั้นผมก็จะใช้ PHP อ่านข้อมูลที่ได้จาก MATLAB แล้วนำไปแสดงผลบนเว็บ วันนี้ผมจะใช้ PHP อ่านข้อมูลจาก text file แล้วส่งเข้าเมลล์ลองดูนะครับ ขั้นตอนที่ 1 อ่านข้อมูลจาก text file < ?php fn = "testWrite.txt" ; $fid = fopen ( $fn , "r" ) ; $data1 = fgets ( $fid ) ; $data2 = fgets ( $fid ) ; $data3 = fgets ( $fid ) ; $data4 = fgets ( $fid ) ; $data5 = fgets ( $fid ) ; fclose ( $fid ) ; ? > fopen ใช้สำหรับอ่านไฟล์ fgets ใช้สำหรับอ่านข้อมูลที่ละบรรทัด โดยข้อมูลที่อ่านได้จะอยู่ในรูปแบบของ string ขั้นตอนที่ 2 ส่งเมลล์ ในขั้นตอนนี้ผมจะใช้ PHPMailer ในการส่งนะครับ ดังนั้นก่อนอื่นให้ดาวน์โหลด PHPMailer ไปใส่ไว้ใน host ก่อน (xampp>>htdocs>>PHPMailer) ดาวน์โหลด PHPMailer หรือ ดาวน์โหลดจาก link สำรอง จากนั้นเข้าไปที่ gmail ของคุณ ที่จะใช้เป็น mail ผู้ส่งเพื่อตั้งค่าความปลอดภัยตามนี้ https://myaccount.google.com/secu

วิธีการใช้ google font กับ blog

รูปภาพ
ผมพบว่า blog ไม่มีแบบตัวอักษรภาษาไทยให้เลือกเลย ซึ่งในบางครั้งก็รู้สึกว่าอยากจะลองเปลี่ยนตัวอักษรของบทความให้ดูอ่านง่ายขึ้นมาบ้าง และผมพบว่าวิธีการที่ง่ายดาย นั่นก็คือการใช้ google font Google font เป็นแบบอักษรที่ google ปล่อยให้นำไปใช้กันได้ฟรี ซึ่งเราต้องเข้าไปเลือกก่อนว่าจะใช้แบบอักษรไหน โดยเข้าไปเลือกได้ที่นี่ https://fonts.google.com/ เมื่อเลือกได้แล้วให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. คลิก Select this font (เครื่องหมายบวกที่มุมขวาบน)  2. จากนั้นจะมีหน้าต่าง popup ขึ้นมาดังรูป ซึ่งเราจะเห็นโค้ดอยู่ 2 ส่วน 3. จากนั้นให้ไปที่เมนู "ธีม" แล้วคลิกที่ "แก้ไข HTML" แล้วก็อปปี้โค้ดส่วนบน ไปใส่ไว้ใต้ <head> แท็ก  และให้เขียน type='text/css'/> ต่อท้ายดังนี้ <link href="https://fonts.googleapis.com/css?family= Kanit " rel="stylesheet" type='text/css'/> 4. จากนั้นกลับมาที่เมนู "ธีม" แล้วคลิกที่ "ปรับแต่ง" แล้วคลิกที่ "ขั้นสูง" จากนั้นเลื่อนลงมา แล้วคลิกที่ "เพิ่ม

การเพิ่ม facebook comment ใน blogger

รูปภาพ
บทความนี้ผมเขียนเพื่อบันทึกวิธีการทำเอาไว้นะครับ เพราะว่าได้ลองทำตามหลายๆ บทความที่มีในเน็ตแล้ว แต่อาจเป็นเพราะบทความเหล่านั้นเก่าเกินไป จึงไม่สามารถใช้ได้กับ blogger และ facebook ในปัจจุบัน จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเล็กน้อย จึงจะใช้งานได้ ขั้นตอนที่ 1 สร้าง facebook comment code ไปที่ facebook for developers ตามลิงค์นี้ https://developers.facebook.com/docs/plugins/comments# จากนั้นเลื่อนลงมาจะเจอหน้าเว็บแบบนี้ เมื่อใส่ข้อมูลครบทั้ง 3 ช่องแล้วกดรับรหัส เมื่อกดรับรหัสแล้วจะได้โค้ดประมาณนี้ (ให้จำเลขเวอร์ชั่นที่ผมขีดเส้นใต้เอาไว้นะครับ) ปกติแล้วเราต้อง copy โค้ดพวกนี้ไปใส่ใน blog ของเรา แต่......... โค้ดที่ facebook สร้างให้ กับภาษาโปรแกรมที่ใช้ใน blog มันคนละภาษากันครับ มันเอาไปใส่ด้วยกันไม่ได้ ต้องแปลงโค้ดจาก javascript ให้เป็น html ก่อน ซึ่งพอแปลงแล้วมันจะได้แบบนี้ครับ โค้ดชุดที่ 1 เอาไปวางไว้ใต้ tag body < div id = 'fb-root' /> < script > ( function ( d , s , id ) { var js , fjs = d . getElementsByTagName ( s ) [ 0 ] ; if ( d . getElementB

การเปรียบเทียบข้อมูล

รูปภาพ
การเปรียบเทียบข้อมูล มักจะถูกนำมาใช้เป็นเงื่อนไขในโปรแกรมเสมอ แต่ก็เป็นเรื่องที่มือใหม่มักจะทำผิดเสมอเช่นกัน ปกติแล้วคนชอบทำผิดการตรงไหน? สมมุติว่าคุณต้องการเปรียบเทียบว่า A เท่ากับ B หรือไม่ สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึง ก็คงจะเป็นเครื่องหมาย "A==B" (ใช้เท่ากับ 2 ตัว เพื่อเปรียบเทียบความเท่ากัน) แต่หลายๆ คนกลับลืมไปว่า ข้อมูลในโปรแกรมไม่ได้มีชนิดเดียว มันมีทั้งตัวเลข และตัวอักษร และใน MATLAB เวอร์ชั่นใหม่ (ตั้งแต่ 2016b ขึ้นมา) MATLAB ได้แบ่งประเภทข้อมูลตัวอักษรออกเป็น 2 แบบ ซึ่งทำให้การใช้งานข้อมูลประเภทตัวอักษรทำได้ง่ายขึ้น แล้ววิธีการเปรียบเทียบตัวเลข กับวิธีการเปรียบเทียบตัวอักษร ต่างกันอย่างไร? คำตอบคือ ต่างกันที่ผลลัพธ์ครับ เช่น การเปรียบเทียบระหว่างตัวเลข เราสามารถใช้เครื่องหมายเปรียบเทียบพวกนี้ได้ เครื่องหมาย ความหมาย ตัวอย่าง >  มากกว่า A>5 <  น้อยกว่า B<12 >= มากกว่าเท่ากับ C>=9 <= น้อยกว่าเท่ากับ D<=26 == เท่ากันกับ A==B ~=

การดึงข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ โดยใช้ MATLAB

รูปภาพ
ในบทความนี้ผมจะพูดถึงการดึงข้อมูลที่เราสนใจบนหน้าเว็บไซต์ออกมานะครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้กับทุกเว็บนะครับ วิธีการนี้ทำได้เฉพาะกับเว็บธรรมดา ที่อนุญาติให้เราเข้าถึงข้อมูลได้เท่านั้น แล้วเราจะรู้ได้ไงละ ว่าเว็บไหนใช้ได้ หรือใช้ไม่ได้ คำตอบคือ เราต้องทดลองใช้คำสั่ง webread เพื่ออ่านข้อมูลจากเว็บนั้นดูครับ ซึ่งเราจะได้ source code ของหน้าเว็บนั้นมา ทีนี้เราก็ไปดูว่าใน source code นั้นมีส่วนของข้อมูลที่เราต้องการอยู่รึเปล่า ถ้ามีก็แสดงว่าเว็บนี้อ่านได้ครับ ในตัวอย่างนี้ ผมจะแสดงวิธีการอ่านค่าเงินแบบ real time จากเว็บไซต์นี้นะครับ http://webrates.truefx.com/rates/connect.html?f=html ซึ่งหน้าเว็บจะเป็นแบบนี้ เราจะเห็นหน้าเว็บแบบโล่งๆ เหมือนรูปข้างบนครับ ไม่มีส่วนตกแต่งเว็บใดๆ ซึ่งเป็นผลดีต่อเรา เพราะส่วนที่เป็น code html ที่เราไม่ต้องการ จะหายไปเยอะเลย ทำให้การค้นหาข้อมูลของเราทำได้ง่ายขึ้น เมื่อเราอ่าน URL นี้ด้วยคำสั่ง webread เราจะได้ข้อมูลหน้าตาประมาณนี้ครับ <table><tr><td>EUR/USD</td><td>1547017529625</td><td>1.14</td><

การแก้สมการ Differential ด้วย MATLAB

รูปภาพ
ถ้าใครเรียนด้านวิศวกรรม หรือ วิทย์คณิต หรือ ฟิสิกส์ ผมเชื่อว่าทุกคนคงจะเคยเจอสมการพวกนี้แน่นอน และสมการพวกนี้ก็จะยิ่งยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนเราไม่สามารถแก้สมการด้วยมือได้ ยกตัวอย่างเช่น สมการของ error ฟังก์ชัน ถ้าใครจำได้สมัยเรียนอาจารย์จะแจกเป็นตารางมาให้เลย โดยที่เราไม่ต้องแก้สมการนี้ด้วยตัวเอง แต่เวลาเราใช้งานจริงๆ นั้น ไม่มีใครไปนั่งแก้สมการให้เสียเวลาหรอกครับ เพราะมันเสียเวลา และไม่รู้ว่าคำตอบที่ได้ออกมาจะถูกรึเปล่า ดังนั้นในการทำงาน หรือการทำวิจัย เราจะใช้ MATLAB เข้ามาช่วยแก้ปัญหาพวกนี้ให้แทนครับ ตัวอย่างเช่น ผมมีสมการ differential ที่ต้องการแก้อยู่ 3 สมการ ดังนี้ dy1/dt = y2*y3 dy2/dt = -y1*y3 dy3/dt = -0.51*y1*y2 โดยมีค่าเริ่มต้น (initial condition) ดังนี้ y1(0) = 0 y2(0) = 1 y3(0) = 1 ปกติแล้วค่าเริ่มต้นจะเป็นค่าใดก็ได้ เราแค่สุ่มเลือกมาใช้ก็พอ แต่....ก็ไม่ใช่ว่าทุกค่าจะใช้ได้ ซึ่งจริงๆ มันก็มีวิธีการเช็คว่าค่าไหนใช้ได้หรือไม่ได้ แต่ผมแนะนำให้เช็คด้วยการทดสอบจริงเลยง่ายกว่าครับ ค่าเริ่มต้นที่ไม่เหมาะสม จะทำให้สมการหาคำตอบไม่ได้ หรือคำตอบผิดเพี้ยน

การหาค่าเฉลี่ยโดยไม่ต้องเก็บค่า

รูปภาพ
ทุกคนคงทราบอยู่แล้วว่าวิธีการหาค่าเฉลี่ยคือ เอาค่าทั้งหมดมาบวกกัน แล้วหารด้วยจำนวนทั้งหมด ดังสมการนี้ Avr = sum(X)/length(X) แต่ในทางปฎิบัติ เราสามารถเก็บค่าได้จำกัด เพราะว่าในขณะที่โปรแกรมกำลังทำงานอยู่ ข้อมูลในตัวแปรทุกตัวจะถูกเก็บเอาไว้ที่ RAM ซึ่งคอมทุกเครื่องมี RAM จำนวนจำกัด ดังนั้นหากเราเก็บข้อมูลไว้ในตัวแปรเยอะเกินไป ก็จะทำให้พื้นที่ RAM ไม่พอใช้งาน ซึ่งจะทำให้คอมพิวเตอร์ค้างได้ ถ้าเราไม่เก็บข้อมูลทุกตัวเอาไว้ แล้วเราจะคำนวณค่าเฉลี่ยได้ยังไงล่ะ? หลายๆ คนอาจจะกำลังคิดว่าน่าจะคำนวณแบบนี้ ค่าเฉลี่ย = (ค่าใหม่ + ค่าเก่า)/2 อย่างเช่น ค่าเฉลี่ยระหว่าง 1 กับ 2 ค่าเฉลี่ย = (2 + 1)/2 = 1.5 คำตอบก็ถูกต้อง วิธีนี้น่าจะใช้ได้นะ แต่มันใช้ได้จริงรึเปล่า เราลองมาทดสอบกับตัวอย่างอื่นดู เช่น ค่าเฉลี่ยระหว่าง 1 , 2 และ 3 AV1 = (1+2)/2 = 1.5 AV2 = (AV1+3)/2 = 2.25 จะเห็นว่าผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง เพราะ AV = (1+2+3)/3 = 2 ดังนั้นวิธีการแบบนี้จึงใช้ไม่ได้ แล้ววิธีการที่ถูกต้องควรจะทำยังไงละ มาดูกันเลยครับ AV = AV - (AV/N) AV = AV + (X/N) โ

ความเห็น